Ep.5 ขั้นตอนการทำ ICSI รอบสอง รพ.จุฬาฯ

ICSI รอบสอง :May 2015 จะเป็นต้องกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่  คือเรากับแฟนได้ตัดสินใจ ซื้อที่แปลงเล็กๆที่เมืองกาญจน์ และเริ่ม Organic Project โดยเริ่มจากการทำ สวนมะนาวและผักอินทรีย์ จึงมีอันทำเพื่อให้มีการเบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่องลูกไปพอสมควร คือทำงานจันทร์ ถึงศุกร์ แล้วไป กลับเมืองกาญจน์ ทุกเสาร์อาทิตย์  
"ให้เวลากับตัวเองเพื่อที่จะลืม
การทำ CISI ครั้งแรก
สิ่งหนึ่งคือ งานเกษตรซึ่งเป็นความชอบ
ส่วนตัวและได้กินอาหารที่ปลอดภัยค่ะ"


แต่ก็เริ่มกระบวนการกันอีกครั้งในเดือน May 2015 การเตรียมตัวนั้นน้อยมาก เหมือนอ่านหนังสือก่อนเข้าห้องสอบแค่วันเดียว  เริ่มกินยาวันแรกก็ผิดแล้วคือต้องกินวันที่ 3 หลังประจำเดือนมา เราก็กินตั้งแต่วันที่ 2 พักผ่อนน้อย เพราะวันหยุดไม่เคยได้พัก วันธรรมดาก็จัดหนักทั้งงานประจำ และกิจกรรม 

ขนาดว่าพรุ่งนี้จะไปใส่ตัวอ่อนละ คืนนี้ยังคาราโอเกะอยู่เลย กินกุ้งแช่น้ำปลาไปด้วย ทำให้ท้องเสียสิค้าบ ซึ่งมีผลแน่ๆ กับการฝังตัวของกับผนังมดลูก ห้ามท้องเสียและท้องผูกเด็ดขาด ตอนนอนพักในห้องเรานี่หมดกำลังใจเลย กลับมาบ้านนอนพักก็ยังถ่ายอยู่

วันรุ่งขึ้นเราตัดสินใจไปทำงาน ไม่หยุดพักเลย ใช้ชิวิตแบบจัดเต็ม เสา-อาทิตย์ ก็มีเหตต้องทำโน้นทำนี่ ซื้อของ จองคอนโด เดินเยอะมาก ไม่กล้าจะคิดหวังอะไรแล้วเพราะรอบแรก นอนนิ่งเป็นอาทิตย์ ยังไม่ติดเลย ด้วยความไม่หวัง และไม่อยากเสียใจแบบครั้งแรก 


"การทำกิจกรรมอื่นบ้างเพื่อที่จะให้ไม่ต้องคิด
เรื่องลูกและขั้นตอนการทำ ICSI
เพราะความเครียดอาจจะมีผลต่อทั้งตัวคุณแม่และน้อง
ที่จะมาเกิด อันนี้เป็นความคิดส่วนตัวล้วนๆ นะค๊ะ"

บวกกับความบ้าพลังและชอบเที่ยว เลยจองตั๋วไปฮอกไกโดช่วงเทศกาลลาเวนเดอร์ ปลายเดือน 7 ไว้ปลอบใจล่วงหน้า และไปบ้านแฟนที่กาฬสินธุ์อีก เอาเข้าไป  นอนดึก งานประจำก็หนักมาก  

จนประมาณ Day 12 หลังใส่ตัวอ่อน รู้สึกปวดหัวและปวดท้อง อาการประจำใกล้จะมา เลยตรวจดูซะหน่อย ตอนเช้า ก่อนอาบน้ำไปทำงาน  เห้ยยยยยย …..

"เห็นขีดที่ 2 แย้วววววววววว"

ขื้นมารางๆเหมือนเราตาฝาด เลยวางทิ่งไว้แล้วรีบอาบน้ำ ขีดที่สองก็ชัดขึ้นแต่ไม่มาก เลยรีบเอาไปให้แฟนดู ดีใจกันใหญ่ วันรุ่งขึ้นตรวจอีก ปรากฎว่า ขีดที่ 2 ขึ้นเร็วและชัดกว่าเดิม 

สรุปว่าท้องแล้ว ตรวจ HCG 
  • ครั้งแรกได้  2,xxx  
  • ครั้งที่2ได้ 7,165  
  • ครั้งที่ 3 ได้11,512 
ดีใจเข้าไปอีกเมื่อรู้ว่าอาจติดแฝด แต่หมอบอกเห็น 1 ก็ 1 กี่คนก็ได้แต่หลังจากรู้ว่าท้องนี่เราป่วยตลอด เป็นไข้ ไอทั้งคืน เป็นตากุ้งยิงอักเสบ แต่กินยาไม่ได้ ได้แค่ประคบน้ำอุ่น

และมีเลือดมีสีน้ำตาลบ้าง สีชมพูบ้างออกตลอด หมอบอกว่าเป็นแท้งคุกคาม  หมอให้พักเยอะๆ 6 วีค u/s แล้วไม่เห็นหัวใจ น้องอาจจะเติบโตช้า ให้รอดู 7 วีค ก็แล้ว  8 วีค ก็แล้วไป ไม่เห็นหัวใจน้อง หมอที่รพ.จุฬาบอกว่าให้รอ และฉีดยากันแท้งด้วยจนเลือดออกมากขึ้น 

เราเลยตัดสินใจไป รพ.BNH แล้วให้แฟนไปรับ เจอคุณหมอศรพิณ เพราะเลือดออกมากขึ้น เราเองมีขึ้นบันไดด้วย ระหว่าง u/s ก็ไม่เห็นหัวใจน้องเหมือนกัน ทั้งที่รู้อยู่แล้ว แต่เราก็ร้องไห้โฮ หมอน่ารักมาก คือบีบมือเรา แล้วค่อยๆบอกให้เราทำใจ เพราะครรภ์แฝดเสี่ยงสูงอยู่แล้วเรานี่ช็อคเลย เพราะ u/s ที่จุฬาหมอเห็นแค่ คนเดียวมาตลอด ทั้งที่ HCG เราสูง แต่ที่ นี่หมอก็ชี้ให้เราก็เห็นที่จอจริงๆ ว่า 2 คน หมอก็บอกให้ระวังเรื่องตกเลือด ถ้าเลือดออกเยอะให้มา รพ. ใจคอไม่ดีเลย


"ระหว่าง u/s ก็ไม่เห็นหัวใจน้องเหมือนกัน
การร้องไห้เป็นสิ่งเดียวที่ช่วยบรรเทา ขณะนั้นค่ะ
การให้กำลังใจสองคนเป็นสิ่งที่ดี"

เดินออกจากห้องไปจ่ายเงิน ร้องไห้ตาบวมแบบหยุดไม่ได้เลย จนถึงบ้าน   ระหว่างนี้ก็หาข้อมูลแล้วล่ะ เกี่ยวกับเรื่องท้องแต่ไม่เห็นหัวใจน้อง เป็นช่วงเวลาที่ทรมานมากจริงๆ จิตตกสุดๆ ว่าน้องยังอยู่หรือจะไม่อยู่ ต้องทำยังไงต่อไป ไม่กล้าคุยกับใคร ให้กำลังใจกันเองสองคน ทำบุญ ก็แล้ว หยุดงานพักอยู่บ้าน ก็ไม่ดีขึ้น  เป็นการรอคอยอะไรก็ไม่รู้  
ตัดสินใจว่าเป็นไงเป็นกัน จะพาลูกไปเที่ยว Furano Hokkaido ให้ได้ แม้จะมีแต่คนห้ามก็ไม่ฟัง ตามแพลนคือ ออกเดินทาง เสาร์ที่ 25July-2Aug15 สุดท้ายทริปนี่ก็ต้องเลื่อนออกไป 3 วัน




รีวิวการขูดมดลูกที่ BNH
ขอถือโอกาสแชร์ประสบการเรื่องการถูกขูดมดลูกสำหรับว่าที่คุณแม่ หรือคนที่มีบุตรยากแบบเรา เพื่อเป็นกำลังใจหรือเป็น เผื่อจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจ ไม่มากก็น้อย ว่าการขูดมดลูกนั้นไม่เจ็บ หรือ น่ากลัวเลยแม้แต่นิดเดียว ขอให้คุณแม่ทุกคนสู้ๆ นะคะ


"การขูดมดลูกนั้นไม่เจ็บ หรือ 
น่ากลัวเลยแม้แต่นิดเดียว"

หลังจากจัดกระเป๋าเตรียมไปญี่ปุ่นเรียบร้อยในคืนวันศุกร์ที่ 24/7/15 ต้องไปถึงสนาม บินตอนบ่ายของวันเสาร์ แต่นึกได้ว่ายังไม่มีใบรับรองแพทย์เป็นภาษาอังกฤษเลยๆ ตัดสินใจไป BNH แต่เช้า แบบทำเวลาสุดๆ ไม่ได้กินข้าวกินน้ำเลย เจอคุณหมอลลิตา ก็บอกความประสงค์เลยว่าขอใบรับรองแพทย์ใช้ในการเดินทางไปญี่ปุ่น 1 สัปดาห์

คุณหมอเปิดดูประวัติและขอซาวน์ดูก่อน ปรากฏว่าน้องไม่อยู่แล้วและไม่อนุญาตให้เดินทาง เพราะมีโอกาสตกเลือดสูงมาก และห้ามอยู่คนเดียวด้วยเพราะหากเสียเลือดมากอาจช็อค ได้เล่นเอาเราสองคนช็อคเลย  เอาไงละทีนี่ ขอคำแนะนำจากคุณหมอ ก็ได้มา 3 ทางเลือก โดย ให้กลับไปคิดดูก่อน 

แต่คุณหมอเขียนใบ ขอเลื่อน FLT มาให้ไปแจ้งสายการบิน
1.ทำคลอด (เราไม่เอาเด็ดขาด กลัว )
2.รอให้ร่างการขับออกมาเองโดยมดลูกจะบีบตัว และตรวจดูว่าแท้งค์แบบสมบูรณ์หรือไม่ ถ้าไม่ก็ต้องมาขูดมดลูก( โอ้ยทนทรมานใจไม่ไหวแล้ว กลัวเจ็บ 2 ต่อด้วย)
3.ขูดมดลูก  (เพราะน้องหยุดการเจริญเติบโต…..Y.Y)            

          เราเลือกข้อ 3 และขอทำวันนี้เลย  แต่ขอกลับไปเตรียมของที่บ้านก่อน เดี๋ยวกลับมาเพราะว่าตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไรนอกจากน้ำ  ก่อนทำต้องอดอาหาร 6 ชั่วโมงระหว่างทางกลับมาก็โทรแจ้งและส่งอีเมล์ให้สายการบิน 


ตัวอย่างเอกสารค่ะ ใช้ในการเลื่อนไฟลท์

เราส่งใบนี้ให้ทางโรงแรมที่ฮอกไกโด ซึ่งเราจองผ่าน Booking ไว้ด้วย  คืนแรกคือ 27/7 ซึ่งหาก cancel ล่วงหน้าแค่ 1 วันแบบนี้ จะโดนหักผ่านบัตรเต็มราคา แต่เรา email ใบรับรองแพทย์ ไปบอกเค้า ว่ามี accident จริงๆ เค้าตอบเมล์กลับมาแสดงความเสียใจ และไม่คิดเงินเลย แม้แต่บาทเดียว

กลับไปที่ BNH ประมาณบ่าย2 ที่ตัดสินใจเร็วไม่ใช่ว่าไม่กลัว เรียกว่าพอได้ยินเรื่องการขูดมดลูกก็กลัวขึ้นสมองแล้ว แต่เพราะไม่อยากอยู่กับความรู้สึก หวิวๆ แบบนี้อีก มันทรมานยิ่งกว่าตอนใส่ตัวอ่อนไม่ติดไม่ท้องหลายร้อยเท่า

เริ่มขั้นตอน 
โดยพยาบาลเอาป้ายข้อมือมาใส่ให้ เจาะเข็มคาไว้ เริ่มเหน็บยาเพื่อที่จะให้มดลูกบีบตัว และปากมดลูกนุ่ม  รู้สึกดี  ที่หมอทำให้เองกับมือ ไม่ใช่พยาบาล ดูใส่ใจ หลังจากนั้นก็มี.x-ray ปอด,ตรวจคลื่นหัวใจ จากนั้นก็ไปเปลี่ยนชุดรอในห้องคนเดียว มีทีวีให้ดู และไปห้องนอนรอต่อ  ประมาณ 2 ชั่วโมงแรกมีอาการปวดท้องประจำเดือน และมากขึ้นเรื่อย 


"ตอนนี้เริ่มปวดท้องมากจนชาเลย 
ประมาณหกโมงมั้ง ก็เข้าห้องผ่าตัด 
โดนมัดแขน ขา โอ่ย ตื่นเต้นและกลัวมาก"

จากนั้นบุรุษพยาบาลมารับตัวไปในห้องนอนรออีก ตอนนี้เริ่มปวดท้องมากจนชาเลย ประมาณหกโมงมั้ง ก็เข้าห้องผ่าตัด โดนมัดแขน ขา โอ่ย ตื่นเต้นและกลัวมาก สักพักหมอวิสัญญีก็เข้ามาแนะนำตัว พูดคุยด้วย แล้วก็บอกจะเริ่มฉีดยาให้หลับแล้ว เรานี้ย้ำว่าขอยาแรงๆให้หลับนานๆเลยนะกลัวจะฟื้นหรือรู้สึกตัว ระหว่างทำอยู่ 555  หลังจากนั้นเหมือนจะรู้สึกตัวอีกทีตอนที่อยู่ในห้องพักแล้ว น่าจะประมาณ 2 ทุ่ม
          
หลังจากฟื้นมีอาการปวดท้องประจำเดือนแบบตุ่ยๆ อยู่ 1 คืนที่นอน รพ.  ลุกมากินข้าวต้มได้ แล้วนอนต่อ ตื่นเช้ามาแทบจะปรกติเลย ไม่เจ็บไม่ปวด มีเลือดออกเหมือนมีประจำเดือนแบบไม่มาก ประมาณ สี่โมงเย็นก็กลับบ้าน  ออกจากรพ. วันอาทิตย์ 

วันรุ่งขึ้นคือวันจันทร์ก็ไปทำบุญ บังสกุลให้น้องสำหรับค่าใช่จ่ายทั้งหมด เราเลือกเป็นแบบ แพคเกจ รวมห้องพัก 1 คืน ประมาณ 36,xxx บาท สำหรับเราถือว่าคุ้มและประทับใจในบริการของ BNH นะ


อาการหลังจากกลับบ้านคือ มีเลือดออกเหมือนประจำเดือนอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ ห้ามยกของ หรือออกกำลังกายหนัก ส่วนเราก็เลยเปลี่ยนจากทริป Hokkaido เป็น แถว Kyoto , Osaka แทน เดินทางวันอังคาร 28/7/15 ก็ไปเที่ยวเลยจร้า


หลังจากเจ็บหนักจากการใส่ตัวอ่อนรอบสอง แล้วเสียน้องแฝดไปนั่น ถามว่าการไปเที่ยว ช่วยได้ไม๊ตอบได้เลยว่าไม่ เห็นใครท้องหรือคลอดลูกนี่ สะท้านอยู่ในอก เจ็บลึกๆ เลยพักเรื่องลูกไปแบบยาวๆ ทุ่มเทให้กับ Onni Organic Farm รีโนเวทพฤติกรรมการใช้ชีวิต หลักๆ คือการกินและออกกำลังกาย

จนแฟนลาออกจากงานก่อนในเดือน กุมภาพันธ์ 2015 กลับไปอยู่กาญ และเจอกันวันเสาร์อาทิตย์ เราเองยังทำงานอยู่ แต่บ้าออกกำลังกายมาก เพราะถ้าเลิกงานกลับมาจะต้องอยู่คนเดียว ตอนนี้ผลผลิตที่สวนก็มากขึ้น จากปลูกกินเอง ไม่ทันก็แจกและขายเราเริ่มติดอาหารที่ทำเอง มีคนขอมาดูงานเยอะมาก และขอแชร์ onni organic farm มากขึ้น


"หลังจากแท้งน้องไปแล้ว
เราก็ต้องกลับมาดูแลตัวเอง
ด้วยการออกกำลังกาย มากขึ้นเพื่อทำขั้นตอนต่อไปค่ะ
สู้ๆ นะค่ะคุณแม่ ทุกคน"




Ep.6 ขั้นตอนการทำ ICSI รอบสาม รพ.จุฬาฯ

น้องข้าวจ้าวกับสวนสัตว์เปิดเขาเขียว
ขอบคุณค่ะ

แม่นุ้ย,

No comments:

Post a Comment