แพคเกจผ่าคลอดที่ รพ.กรุงเทพ สำหรับคุณแม่

อันที่จริงเราอยากจะเขียนเป็นบันทึก เรื่องการเจอกันครั้งแรกของครอบครัวเรากับลูกสาวเก็บไว้
แต่หากว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังเตรียมตัวเป็นคุณแม่ และครอบครัวใหม่ได้ด้วย ก็จะยินดีมากๆ
*******************************
การผ่าคลอดที่ รพ.กรุงเทพ หากเลือกเวลา 8 โมง สามารถเข้ามานอนก่อนล่วงหน้าฟรี 1 คืน เพื่อเตรียมตัวต้องงดน้ำงดอาหารหลังเที่ยงคืน แต่ถ้าเลือกเวลา  9 โมง ต้องมาเตรียมตัวตอนเช้าค่ะ 
              เราเองตั้งใจผ่าคลอดไว้วันที่ 27 มกรา (มากะรัก) ตั้งแต่แรกแล้ว โดยไม่ได้ดูฤกษ์ยามอะไรมีเหตผลเดียวคือเป็นวันครบรอบแต่งงาน ส่วนตัวแล้วก็ชอบเลข 8ด้วย 
              แม้จะมีเหตที่ต้องลุ้น เรื่องภาวะคลอดก่อนกำหนดมาตั้งแต่ปลายปี ที่แล้วก็ตามแต่เราก็ประคอง มาจนครบ 38 วีคจนได้และแล้ววันที่ 26 มกราคม 2560 ก็มาถึง กินข้าวเย็นเสร็จถ่ายรูปและวีดีโอเก็บไว้เป็นที่ระลึก                                                             
ร้องไห้ตลอดทางไป รพ เลย 555 อาการ Baby blue มาเต็มตั้งแต่ 1 เดือนก่อนคลอดแล้ว (อาการคือมันจะนอยด์ๆ จิตตก ช่วงก่อน-หลังคลอด อยู่ดีๆก็ร้องไห้ หัวเราะ บ้าง เป็นเพราะฮอร์โมนนะคะ เดี๋ยวก็หาย)
หลังจากนัดวันและเวลาเรียบร้อย รพ.จะมีให้กรอกเอกสารเรื่องการยินยอมหลายใบอยู่เหมือนกัน รพ.จะให้ใบนี้เรากลับมา  มีแจ้งรายละเอียดไว้ตามรูปค่ะ
***_____*** 

เอาไว้ยื่นที่ห้องฉุกเฉินวันนัดเลยเรากับแฟนมาถึงช้าเพราะมัวแต่จัดบ้าน เตรียมต้อนรับลูกสาวจนทาง เจ้าหน้าที่โทรมาตามด้วยล่ะ 
ติดต่อตรงนี้คะ
ยื่นบัตรนัดให้เจ้าหน้าที่ จะมีเข็นรถพาไปส่งที่ห้องเตรียมคลอด
ห้องนี้ ก็คือห้องคลอดธรรมชาติ  บรรยากาศในห้อง สะดวกสบาย กว้างขวางมีโซฟา ตู้เสื้อผ้า ช่องเก็บของ ตู้เย็นและห้องน้ำ 
พยาบาลจะให้เราเปลี่ยนชุดผูกด้านหลัง มาวัดความดัน การเต้นของหัวใจลูก และบอกให้รีบนอน เพราะกลัวถ้านอนดึก ความดันไม่ปกติคุณหมออาจจะไม่ผ่าให้นะคะ เหมือนรู้ว่าเราตื่นเต้นและอาจนอนไม่หลับ
 ***********************************
นาทีนี้ตื่นเต้นมากจริงๆ นอนน้ำตาไหลจนเกือบเที่ยงคืน ทั้งเรื่องที่ต้องโดนคุณหมอบล๊อกหลัง มีความอยากเห็นหน้าลูก โพสรูปสุดท้ายที่เราถ่ายก่อนออกจากบ้าน เสร็จก็ปิดโทรศัพท์ข่มตานอน  ลูบท้องทั้งคืนเพราะจะเป็นคืนสุดท้ายแล้วจริงๆ ที่มีเด็กน้อยนอนอยู่ในนี้

ส่วนคุณสามีก็นอนไม่หลับเหมือนกัน เป็นห่วงทั้งแม่และลูก คอยให้กำลังใจกันอยู่ตลอด
เช้าวันที่ 27 มกราคม 2560 เป็นวันครบรอบแต่งงาน 4 ปีด้วย
6.00 พยาบาลเข้ามา, ปลุกโกนตรงนั้น ,สวนถ่าย , ให้เราเข้าห้องน้ำแล้วอาบน้ำ (บอกเลยว่าเกือบวิ่งไม่ทัน) ,แต่งหน้าได้แต่ห้ามทาเล็บ
7.30 เจ้าหน้าห้องคลอดมารับตัวแล้วค่ะ นึกถึงวันแต่งงานตอนรอขันหมากเลยค่ะ แต่ตื่นเต้นกว่าหลายเท่า 555
            

เจาะเข็มที่หลังมือ สายน้ำเกลือ เข็นเรานอนไปห้องคลอดแล้ว แยกกับสามีตรงนี้ ให้คุณพ่อออกไปเตรียมตัวรออีกห้อง


8.00 คุณหมอร่มไทรนั่งรออยู่ ทักทายเรา มีเจ้าหน้าที่บล็อกหลังเข้ามาแนะนำตัว ทุกอย่างมันเร็วมาก จับเรานอนตะแคงกอดเข่าทั้งที่ติดพุงใหญ่ๆ ชวนเราคุย  
สักพักรู้สึกเหมือนมีใครมากระแทกด้านหลังแรงมาก แต่ไม่เจ็บ (บล็อกเสร็จแล้ว) แต่ยังไม่เห็นชาเลย จับเรานอนหงาย แยกขาออก แล้วก็ จับแขนเรามัด  แล้วก็ จับแขนเรามัด โอ่ย ตอนนี้กลัวสุดๆ ใส่ท่อปัสสาวะ ทำไมถึงได้รู้สึกทั้งหมด เราพยายามบอกเขาว่า ให้รอก่อน เรายังไม่ชา ขอยาเพิ่ม พูดซ้ำๆแต่ไม่มีใครหยุดเลย   รู้สึกเหมือนมีคนมาจับๆที่ท้อง สักพัก ได้ยินเสียงคนเรียกชื่อ

8.13 เวลาคลอดน้อง เราได้ยินเสียงเด็กร้องแว่ว และได้ยินเสียงคนบอกว่าถ่ายรูป หันไปมอง ก็เห็นเด็กตัวแดงๆร้องเสียงดังมาก เห็นแฟนเรามาจับมือ ทันใดนั้นก็ยิ้มเลย รู้สึกว่าน้ำตาไหล มันมหัศจรรย์มัน เป็นภาพที่ จำได้ไม่มีวันลืม ไม่เบลอ

                                                 รูปแรกของน้องข้าวจ้าว ทางรพ.อัดให้1ใบ
 ****************
รู้สึกตัวอีกทีนึงก็อยู่ในห้องสังเกตุอาการมีพยาบาลอยู่ข้าง รู้สึกปวดท้องมาก (ปวดสุดเลยคือตอนนี้) น้ำตายังไหล ทุกครั้งที่คิดถึงลูก พยาบาลคอยเช็ดน้ำตาให้ แล้วคอยถามอาการ คงนึกว่าเราร้องไห้เพราะเจ็บแผล
 เราแทบไม่หลับเลยรู้สึกตัวตลอด
11.00 ย้ายเรากลับไปห้องรอคลอด  มีแฟนเรารออยู่และ พ่อกับแม่มาถึงพอดี พยาบาลพาน้องเข้ามาหา เราดีใจมาก อุ้มน้องมาส่งให้ดูดกระตุ้นน้ำนม ตอนน้องดูดนม ครั้งแรกมันรู้สึกแปลกเจ็บทั้งนมและแผล พยาบาลบอกว่า เวลาลูกดูดมดลูกเราจะบีบตัว และบอกด้วยว่าน้ำนมมาแล้ว เราไม่ได้ระบุหมอของน้อง เค้าเลยถามตอนนั้นว่า ต้องการระบุชื่อหมอของน้องหรือเปล่าเรา บอกไปว่าคุณหมอพรเทพ สวนดอก ตามที่เพื่อนแนะนำมา
12.00 ย้ายเราไปห้องพัก เค้าใส่สายรัดข้อมือเราเป็นกล่องเล็กสีขาว และข้อเท้าลูกเป็นสีชมพูแบบนี้
****************************
เป็น sensor อะไรสักอย่างเพื่อป้องกันเด็กสลับตัว เวลาพยาบาลพาน้องเข้ามาหาเรา พอใกล้ๆกันจะมีเสียงเพลงกรุ๊งกริ๊ง แบบนี้ แต่ถ้าไม่ใช่แม่ลูกกันจะเป็นเสียงเตือน สามารถใส่อาบน้ำได้เลย ไม่ต้องถอดจนกว่าจะออกจากรพ. ระหว่างพักฟื้น น้องจะอยู่ที่ห้อง nursery  เค้าจะพาลูกมาดูดนมทุก 3 ชั่วโมง

17.00 พยาบาลมาเช็ดตัว ทำความสะอาดให้ เปลี่ยนชุดและผ้าอนามัย แผ่นรองให้โดยที่เราไม่ต้องลุกเลย ใส่สเตย์ให้ๆเอากลับไปใส่ที่บ้านด้วย เราใส่ตลอด เพราะช่วยให้แผลกระชับดี


เริ่มจิบน้ำได้  แต่ยังอดอาหารถึงพรุ่งนี้เช้า เราเริ่มปวดหัวเวียนหัวเนื่องจากพยาบาลบอกให้นอนราบ แต่เราพยายามลุกกึ่งนั่งมาดูหน้าลูกชัดๆ อุ้มลูก จนมีอาการเวียนหัวอยากอาเจียนรีบเรียกพยาบาลมา ฉีดยาให้ ถามเราว่าต้องการยาแก้ปวดไม๊ เรารีบบอกเลยว่าเอาเยอะๆเลย กลัวยาหมดฤทธ์แล้วจะปวด 555 สักพักหายเวียนหัว หิวด้วยเพราะอดอาหารตั้งแต่เที่ยงคืน 
วันที่ 26/1พอเริ่มจะเคลิ้มๆหลับ พยาบาลก็พาน้องมากินนม เราดีใจ ตื่นเต้นทุกครั้ง สามีเป็นคนแรกที่ได้อุ้มน้อง เพราะเรายังต้องนอนราบ เสียงร้องของน้องดังกังวาลดีจริงๆเลย
ช่วงระหว่างที่อยู่รพ. เราแนะนำว่า ควรถามพยาบาลเยอะๆ แล้วลองทำเอง เช่น วิธีอุ้มและ นอนให้นมยังไง อยากรู้อะไรให้ถามไปเลยเพราะถ้ากลับบ้านแล้วเราจะทำอะไรไม่ถูก 
28/1  พยาบาลมาเช็ดตัว แปรงฟัน และพาลุกนั่ง ถอดสายปัสสาวะออก (ไม่เจ็บเลย) และนี่คืออาหารมื้อแรก

เรานี้กินหมดเกลี้ยง เพราะหิวจนตาลาย แนะนำให้นำน้ำขิงซองมาชงกินเลยนะค่ะ เพื่อกระตุ่นน้ำนม ช่วงนี้กินได้แต่อาหารเหลว พยายามดื่มน้ำเรื่อยๆค่ะแต่อย่าดื่มทีเดียวเยอะให้จบเรื่อยๆ นมจะได้มาเร็วๆ 
แล้วพยาบาลพาเดินไปฉี่ที่ห้องน้ำครั้งแรก(ไม่เจ็บขัดนะตอนลุกนั่งและเดินครั้งแรกมันเจ็บแบบว่าทนได้ค่ะ เราเองถือว่าขี้กลัวมาก ยังรู้สึกว่า อืมเจ็บแค่นี้เองหรอ 555 แล้ว ก็พาน้องมากินนม สายๆเพื่อนทยอยมาเยี่ยม แฟนก็จะพาไปดูน้องที่ห้อง nursery พยาบาลจะพาน้องมาใกล้ๆตรงกระจก พยาบาลก็แนะนำให้ลุกเดินด้วยค่ะแผลจะหายเร็ว ตอนเย็นเราขอเดินไปดูน้องที่ห้อง nursery   ข้างๆจะมีห้องนมแม่ค่ะ อย่าลืมไปใช้กันนะคะ สามารถเข้าได้แค่คุณพ่อและคุณพ่อเท่านั้น 

ในห้อง จะมีเครื่องปั๊มนมให้ ปั๊มเสร็จพยาบาลจะเก็บไว้ให้ลูกเรา มีโซฟา และผ้ากั้นเป็นส่วนตัวแบบนี้ค่ะ แนะนำให้มาใช้นะคะ สร้างความคุ้นเคย นี่คือนมที่เราปั๊มครั้งแรก 30 นาที ได้เท่านี้เอง เจ็บมากกกก 555
************************** 

************
28/1  ได้อาหารหนักท้องขึ้นค่ะ วันที่3แล้ว วันนี้ตอนเย็นได้ไปเรียนอาบน้ำลูก โดยพยาบาลทำให้ดู เริ่มเจ็บนมมากขึ้น ระบมไปหมด ลูกก็ร้องไห้เสียงดัง ไม่รู้เหมือนกันว่าดูดไปได้บ้างหรือป่าว เราเองก็ใจคอไม่ดีแต่พยาบาลมาสอนนวด และประคบ โดยใช้เจ้านี้ค่ะ ข้าวสารดอกไม้

ก่อนใช้ใส่ในไมโครเวฟ เปิดไฟปานกลาง 1 นาที จะร้อนๆ เอามาวางรอบๆเต้านมค่ะ ตอนนี้เจ็บจนรอบดึกนี่แทบร้องแข่งกับลูกเลย 
วันจันทร์ที่ 30 มกรา วันนี้เราต้องกลับบ้านกันแล้ว กินข้าวเช้าเสร็จ เดินไปหาลูกให้นม เรียนอาบน้ำแบบปฏิบัติจริง โดยคุณพ่อ เพราะว่าเรายังเจ็บแผลและเอ็นที่ข้อมือ จากนั้นก็รีบกลับมาอาบน้ำสระผม เปลี่ยนชุด
แพคเกจคลอดของรพ คือมีถ่ายรูปครอบครัวให้1ใบใหญ่ จะมีตากล้อง กับผู้ช่วยมาจัดห้อง จัดท่าทางให้ด้วย โดย พยาบาลจะแต่งตัวให้น้องในชุดกลับบ้านพาน้องมา  ช่วยอุ้มส่งให้ แต่น่องข้าวจ้าวไม่ให้ความร่วมมือเลย ร้องไห้ตลอด พยาบาลก็บอกให้ๆนมก่อน โดยเอานมที่เราปั๊มไว้มาสอนการป้อนแบบใช้ช้อน

(เพราะเราจะไม่ให้ขวดน้องก่อน 1 เดือน เพื่อกันน้องสับสนจุก) ให้นมเสร็จน้องก็ยังไม่ให้ความร่วมมือเท่าไหร่  แต่ต้องขอบคุณในความเป็นมืออาชีพของตากล้อง เพราะสามารถถ่ายออกมาได้สวยจริง
สุดท้าย ก่อนจะออกจาก  ก็โทรแจ้งเพื่อเชคเอ้าท์ การเงินจะโทรมาแจ้งยอดและพร้อมเจ้าหน้าที่จะนำเครื่องรูดบัตรมาบริการที่ห้องเลย เราไม่ได้สั่งอาหารเพิ่มและน้องสุขภาพแข็งแรงดี จึงไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ตรงตามแพคเกจเลยค่ะ ประมาณ 8หมื่นนะคะ จำตัวเลขกลมๆ ไม่ได้ เบ็ดเสร็จคือรวมตั้งแต่มานอนรอคลอด คือ4วัน4คืนพอดี มีเซทของขวัญพร้อมกระเป๋าให้ด้วย 
รวมอาหาร 3มื้อตั้งแต่วันที่ 2 เพราะว่าวันแรก ยังงดอาหารอยู่ แต่ละวันจะมีเมนูมาให้เราเลือกอาหารในวันถัดไป

ประมาณนี้ และท้ายสุดจะมีเจ้าหน้าที่เข็นรถนั่งให้คุณแม่ และพยาบาลเข็นน้องมาส่งให้ถึงรถ
ท้ายสุดเราขอแนะนำร้านก๋วยเตี๋ยวตรงหน้ารพ. อยู่ข้างตึกทันตกรรมนะคะ อร่อยมาก ครอบครัวเรามาทานแทบทุกครั้งที่มารพ. ตั้งแต่ฝากท้อง ตรวจครรภ์ แถมซื้อกลับบ้านด้วย แนะนำค่ะ 


............................
ขอบคุณค่ะ สู้ๆนะค่ะ
แม่นุ้ย

No comments:

Post a Comment